เรียกว่า สุขสมหวังกันถ้วนหน้าสำหรับ “เดอะ ค็อป” ที่สิ้นสุดการรอคอยตั้งแต่ฤดูกาล 1989/1990 หรือกว่า 30 ปี ที่ร้างราจากแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ มาวันนี้พวกเขาได้ชูถ้วยฉลองแชมป์อย่างเป็นทางการเสียที
กว่าจะมีวันนี้
สำหรับลิเวอร์พูลนั้นเรียกว่าเป็นทีมที่มีประวัติศาสตร์สุดยิ่งใหญ่เป็นถึงอดีตแชมป์ลีกสูงสุดที่มากที่สุดในประเทศที่ 19 สมัย ก่อนจะถูกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แซงไปในฤดูกาล 2012/2013 แต่สิ่งหนึ่งที่มันสุมอยู่ในอกของเหล่าสาวก “หงส์แดง” คือคำถากถางทั้งหลายแหล่ โดยเฉพาะจากแฟน “ปิศาจแดง” ทั้งแชมป์ว่าว ,เป็ด ,หรือ meme ต่าง ๆ ที่มักจะแซวกันว่า “ให้รักเด็กหงส์สิเพราะความอดทนสูง” หรือ “จะรักคุณไปจนกว่าหงส์จะคว้าแชมป์ลีก”
จริง ๆ แล้วลิเวอร์พูลเองก็เข้าใกลกับแชมป์ลีกมาหลายรอบเหมือนกันในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา อย่างเช่นฤดูกาล 2008/2009 ที่ลิเวอร์พูลโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมจากการนำทัพของ 3 ประสานในแดนกลางอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ,ชาบี อลอนโซ ,ฮาร์เวียร์ มาสเคราโน่ และกองหน้าฟอร์มร้อน เฟร์นานโด ตอร์เรส แต่กับได้เพียงแค่รองแชมป์โดยมีคะแนนตามหลังคู่รักคู่แค้นอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด 4 แต้ม ทั้งที่แพ้น้อยกว่า และยิงประตูทั้งฤดูกาลได้มากกว่า
หรือฤดูกาล 2013/2014 ที่สร้างตำนานซึ่งถูกกล่าวขานมาถึงทุกวันนี้ กับช็อตการลื่นของสุดยอดกัปตันทีม สตีเว่น เจอร์ราร์ด ในเกมสำคัญที่พบกับเชลซี ที่หากว่าพวกเขาชนะจะทำแต้มฉีกหนีแมนฯ ซิตี้ ออกไปจนแทบจะการันตีแชมป์ แต่กับถูกทำร้ายจากคนที่ไว้ใจที่สุดอย่าง “สตีวี่ จี” สุดท้ายความพ่ายแพ้จากช็อต “ลื่น” ในเกมนั้นส่งผลให้พวกเขาเสียสูญโมเมนตันและถูกแซงไปในที่สุด
คล็อปป์ของเหล่าค็อป
เรียกว่าลิเวอร์พูล ปวดร้าวอย่างมาก เพราะฤดูกาลไหนที่ทีมเหมือนจะดีจะฟื้นขึ้นมา ฤดูกาลต่อไปมักจะ 3 วันดี 10 วันไข้ ขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่แทบทุกตลอด จนกระทั่งการมาถึงของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ในปี 2015 ที่เรียกว่าเปรียบดั่งแสงสว่างของเหล่าแฟนหงส์ ด้วยเกียรติประวัติการพาโบรุสเซีย ดอร์ทมุน คว้าแชมป์เหนือบาเยิน มิวนิค ได้ 2 ปีติดต่อกัน และคล็อปป์คนนี้นี่เองที่ค่อย ๆ ปรับเสริม ปรุงแต่งให้ทีมดีขึ้นเรื่อย ๆ ซาดิโอ มาเน่ ,โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ ,โมฮาเหม็ด ซาล่า ถูกดึงเข้ามาประสานงานกันจนมีฟอร์มเกมรุกสุดดุดัน
ก่อนจะถูกเติมเต็มด้วย เวอร์กิล ฟานไดค์ ในช่วงมกราคม 2019 พร้อมทั้งคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์ มาครอบครองได้แต่ต้องอกหักอีกครั้งกับพรีเมียร์ลีก เมื่อพ่ายแพ้ให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทั้งที่มีคะแนนเท่ากันแต่แพ้เพราะประตูได้เสียที่แย่กว่า จนต้องถูกแซวกันไปอีกหนึ่งรอบใหญ่ ๆ
จนสุดท้ายแล้ว ฤดูกาล 2019/2020 ลิเวอร์พูล ที่ผิดหวังมานานนม ก็เตรียมความพร้อมมาอย่างดี และโชว์ฟอร์มสุดยอดชนิดที่ว่าทำลายเกือบทุกสถิติ การไม่แพ้ในบ้านมากว่า 2 ฤดูกาลติดต่อกัน ที่สำคัญชนะในบ้าน 100% ทำสถิติชนะในบ้านติดต่อกันมากที่สุด 23 นัด ไม่แพ้ในบ้านยาวนาน 56 เกม คว้าแชมป์โดยที่เหลือเกมการแข่งขันอีก 7 เกม ทำลายสถิติของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (5 เกม) น่าเสียดายที่ไม่สามารถทำสถิติไร้พ่าย และทำแต้มเกิด 100 แต้มได้ แต่สุดท้ายสิ่งที่วกเขารอคอยคือ ถ้วยพรีเมียร์ลีก ก็มาอยู่ในอ้อมกอดของพวกเขา และส่งให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นกุนซือคนที่ 11 ที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้
สถิติ
และนี่คือสถิติที่น่าสนใจของลิเวอร์พูล ที่บอกเลยว่าคว้าแชมป์ทั้งที่งานนี้ต้องมีอะไรดี ๆ แน่นอน
- – 1982 ปีที่สโมสรลิเวอร์พูลถูกก่อตั้งขึ้นมา
- – 2015 ปีที่เจอร์เกน คลอปป์ คุมทีม
- – 11 ลำดับของกุนซือที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
- – 9 โค้ชที่ลิเวอร์พูลเปลี่ยนก่อนได้แชมป์
- – 7 จำนวนเกมที่เหลือหลังลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ โดยทำลายสถิติของ แมน ฯ ยู ( 5 นัด)
- – 1989-1990 ปีล่าสุดที่ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์
- – 30 ปีที่ลิเวอร์พูลรอคอยแชมป์ลีกสูงสุด โดยลงไปเล่นไปแล้ว 1,149 เกม คิดเป็น 103,410 นาที
- – 239 คือจำนวนผู้เล่นที่ลิเวอร์พูลใช้ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา
- – 1,470 ล้านปอนด์ คือเงินที่ลิเวอร์พูลใช้ซื้อนัดเตะในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา และขายนักเตะไป 936.6 ล้านปอนด์
สรุป
ที่เด็ดลิเวอร์พูลชูถ้วยบอกเลยว่างานนี้ 30 ต้องมา 11 ก็ดี หรือแม้แต่ 20 อันเป็นเลขปีที่พวกคว้าแชมป์มาได้ อ่ออย่าลืม 99 เลขสุดสวยตัวนี้เพราะนี่จะเป็นแต้มสูงสุดที่ลิเวอร์พูลทำได้ หากชนะในนัดสุดท้ายของฤดูกาล นักเสี่ยงโชคเว็บเล่นหวยออนไลน์ ruay.page หรือแฟนหงส์ แฟนบอลคนไหนอย่าลืมเอาสถิติอันยอดเยี่ยมของหงส์แดงไปแทงให้รวยกัน
