8 สิ่งที่ไม่ควรพูด ห้ามทำ ถือเป็นคำอัปมงคล พาอับโชคได้

ที่เขาว่า คำพูดเป็นนาย นี่เป็นเรื่องจริงทั้งนั้น บางครั้ง เราก็พูด ใน สิ่งที่ไม่ควรพูด ห้ามทำ ถือเป็นคำอัปมงคล พาอับโชคได้ออกมา จะด้วยความเคยชินหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่คำพูดที่เราได้พูดออกมานั้น เป็นเหมือนกับสิ่งที่เราคิดอยู่ภายในใจ หรือ ต้องการสื่อออกมา แต่คำบางคำ ก็ไม่ใช่คำที่ดี บางทีก็พาเราดิ่งไปเหวลึกที่ไม่มีแสงสว่างด้วย แต่ถ้าเรา พูดดี คิดดี ทำดี สิ่งดีๆ เหล่านั้น ก็จะพาเราไปพบเจอกับอะไรที่ดีตามที่เราต้องการ

luck

8 สิ่งที่ไม่ควรพูด เป็นลางไม่ดี อัปมงคล

1. ซวย

คำว่า “ซวย” เป็นคำที่เราใช้บ่อยมาก ไม่ว่าจะในสถานการณ์แบบใดก็ตาม เพราะเป็นคำที่สามารถอธิบายความรู้สึกที่ไม่เป็นธรรมของตัวเองได้ดีที่สุด แต่จริงๆ แล้ว คำนี้ถือเป็นคำต้องห้ามเลย เพราะว่าการที่เรามองว่า เหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าไม่ดีแล้ว แล้วยังไปตอกย้ำความไม่ดีนั้นเข้าไปอีก จะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ยิ่งกว่าเดิม และเพิ่มความรู้สึกที่ไม่ดี อย่างเช่น ความรู้สึกหงุดหงิด เข้าไปอีกด้วย

2. ทำไม่ได้

เอะอะอะไรก็ทำไม่ได้ บางที การที่เราบอกว่า ทำไม่ได้ นั่นอาจหมายความว่า เรายอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ลงแข่งเลย เหมือนกับการที่เราไม่เก่งคณิต พอเห็นโจทย์ปุ๊บ เราก็พูดขึ้นเลยว่า ‘ทำไม่ได้’ แบบนี้เป็นการยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ลงมือทำด้วยซ้ำ เราควรให้โอกาสตัวเองในการลงมือทำ ไม่ว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นบวกหรือว่าลบ แต่ท้ายที่สุดแล้ว เราก็ได้ทำอย่างสุดความสามารถของเรา โดยไม่ต้องเสียใจอะไรเลย

คนนั่งที่ลานรถไฟ

3. หมดหวัง

‘แค่คิด ก็หมดหวังแล้ว’ เราคิดแบบนี้กันไม่ได้ ความคิดแบบนี้ก็ไม่ได้ต่างจากการไม่ลงมือทำเลย ทำไมเราต้องคิดว่าหมดหวังด้วยล่ะ ในทุกๆ ปัญหา มักจะมีทางออกอยู่เสมอ แต่ด้วยความที่เรากำลังเครียดหรือรู้สึกคิดอะไรไม่ออกจริงๆ อาจจะทำให้เรามองไม่เห็นหนทางในการแก้ปัญหา เราอาจให้ผู้อื่นช่วยกันมองปัญหาและวิธีการแก้ปัญหา

การที่เราเอาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์นั้นๆ สามารถมองได้สองแง่ นั่นก็คือ เราจะสามารถเข้าใจถึงปัญหาได้ถึงแก่นแท้ แล้วมองวิธีการแก้ปัญหาอย่างทะลุปรุโปร่ง หรือสอง เราจะกดดันตัวเอง เมื่อต้องอยู่ในปัญหา จนทำให้ความรู้สึกของเรา ราวกับว่ากำลังมืดแปดด้าน

4. ขี้เกียจ

ปัญหาระดับโลกเลยล่ะเรื่องนี้ กับ ‘ความขี้เกียจ’ ที่มีอยู่ในตัวของทุกคน เช่น ขี้เกียจไปเรียนหนังสือ ขี้เกียจไปทำงาน ขี้เกียจซ้อมกีฬา เป็นต้น ไม่ว่าใคร ก็รู้สึกขี้เกียจได้ทั้งนั้น แต่ว่า จะมีสักกี่คน ที่พูดว่าขี้เกียจ แล้วยังคงออกไปทำตามสิ่งที่ต้องทำอยู่ เรารู้สึกขี้เกียจอยู่แล้ว ยิ่งเราพูดว่าขี้เกียจเสริมทัพเข้าไป ยิ่งทำให้ความรู้สึกของเราแย่ลงไปเรื่อยๆ และคิดว่า ทำไมตัวเราขี้เกียจแบบนี้ ลองเลิกพูดคำว่า ขี้เกียจ กับตัวเอง แล้วพูดเสริมกำลังใจให้ตัวเองแทนดีกว่า

คนกำลังโวยวายหน้าโทรศัพท์มือถือ

5. ยาก

ชีวิตเรามันไม่มีเรื่องง่ายกันทั้งนั้น มีแต่เรื่องยากๆ เหมือนกับบททดสอบจากพระเจ้า ที่ต้องการดูว่า เราจะผ่านพ้นปัญหานี้ไปได้อย่างไร การที่เราเอาแต่บ่นว่า ‘ยาก’ มันก็จะทำให้ สิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้น มันดูยากขึ้นไปกว่าเดิม คิดซ่ะว่า เรากำลังเล่นเกมกันอยู่ และ นี่คือด่านที่เราจะต้องผ่านเกมนี้ไปให้ได้ มันอาจจะทั้งยาก ทั้งลำบาก ทั้งเจ็บปวด ไม่มีความสุข แต่เราต้องผ่านมันไป เพื่อสิ่งที่ดีกว่าเดิม รวมไปถึง สิ่งที่เราได้ตอบแทนกลับมา อาจดีกว่าที่เราคิดก็ได้

6. เบื่อ

คำว่า ‘เบื่อ’ เหมาะสำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดเป็นอย่างมาก น่าจะเป็นคำพูดติดปากของคนสมัยนี้ด้วย แม้ว่าจะมีเทคโนโลยีเข้ามาอยู่ภายในชีวิตประจำวันมากขึ้น มีอะไรที่น่าสนใจเพิ่มมากขึ้น แต่มนุษย์ก็ไม่เคยพอใจกับสิ่งที่มี และ พยายามที่จะมองหาสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ดังนั้น เราลองเปลี่ยนความเบื่อของเรา เป็นการหาสิ่งที่เรายังไม่เคยทำดู

จากปกติต้องทำงานประจำที่แสนน่าเบื่อทุกวี่ทุกวัน เราก็อาจจะลองใช้เวลาว่างของเราทำอย่างอื่นที่น่าสนใจบ้าง เช่น ทำอาหาร ทำขนม เรียนภาษาที่สาม เป็นต้น ถือเป็นการเพิ่มทักษะความรู้ และ สามารถเพิ่มรายได้ ในอนาคต ให้กับเราได้อีกด้วย

ผู้หญิงนอนฟุบบนโตีะ

7. ท้อแท้

ท้อแท้ มีความหมายเท่ากับ การยอมแพ้ บางที เวลาคนเราทำอะไรสักอย่างไปนานๆ แล้วไม่ได้ผลตอบแทนที่ดี หรือ ตามที่คาดหวังไว้ เราก็มักจะรู้สึกท้อแท้ เหนื่อยใจ ไม่มีแรงที่จะสู้ต่อไปอีกแล้ว ในส่วนนี้แอดมินเข้าใจได้ เราอาจจะท้อแท้กันได้ในบางครั้งบางคราว แต่เมื่อเราพูดระบายความในใจจนเต็มที่แล้ว เราก็ต้องกลับมาสู้ใหม่ คนเรารู้สึกท้อแท้ได้เป็นปกติ แต่อย่าให้คำพูดและความรู้สึกนั้น มาเป็นตัวขัดขวางทางข้างหน้าของคุณ

8. บรรลัย

เป็นคำที่ค่อนข้างหยาบคายเล็กน้อยในบางสถานการณ์ เพราะว่ามันเหมือนกับระเบิดที่พร้อมเผาผลาญทุกอย่างที่ขวางหน้า เป็นเสมือนจุดจบของชีวิต ยิ่งเราพูด ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำจุดจบของชีวิตเรา แต่เรายังไม่ตายกันเสียนี่ เรายังมีชีวิตอยู่ มันอาจจะเป็นจุดจบของเรื่องใดเรื่องหนึ่งในชีวิตเรา แต่ไม่ใช่จุดจบของทั้งชีวิตเรา อย่ามัวจบปลักอยู่กับสิ่งที่เป็นเหมือนโคลนตม จงลุกขึ้น และ สู้กับอุปสรรค อีกครั้ง

ผู้หญิงนั่งข้างแม่น้ำ

ขอบคุณรูปภาพจาก: pinterest

สรุป

หากเปรียบการพูดกับสุภาษิตไทย น่าจะนึกถึงสุภาษิตที่ว่า “พูดดีเป็นศรีแก่ปาก” เพราะการจะพูดออกมาแต่ละคำ แต่ละอย่างนั้น ต้องกลั่นกรองออกมาจากสมอง ออกมาจากความคิด ที่ว่า พูดออกไปแล้ว จะเกิดผลกระทบอะไรบ้าง สิ่งที่พูดออกไปนั้น เข้ากับสถานการณ์หรือไม่ ดีหรือไม่ ดังนั้น หากชาว Ruay ท่านไหนพูดจาไม่ดีออกไป พูด สิ่งที่ไม่ควรพูด ผลที่ตามมา ก็จะไม่ดีเช่นกัน เราจึงควรพูดแต่สิ่งดีๆ ออกไป เราอาจจะไม่รู้ว่า อนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่การพูดสิ่งดีๆ ออกไป ก็ช่วยทำให้จิตใจเรา และ สิ่งที่อยู่รอบตัวเรา ดีขึ้นตามไปด้วย

สุภาษิต พูดดีเป็นศรีแก่ปาก แปลว่าอย่างไร

เป็นสำนวนไทยหนึ่ง มีความหมายว่า พูดจาดีย่อมเป็นที่นิยมชมชอบ เพราะใคร ๆ ก็ต่างอยากได้ยินคำพูดที่ดีกันทั้งนั้น

สุภาษิต ที่เกี่ยวกับคำพูด มีอะไรบ้าง

สุภาษิต ที่เกี่ยวกับคำพูด ได้แก่ ขวานผ่าซาก ปากคนยาวกว่าปากกา ปลาหมอตายเพราะปาก ปั้นน้ำเป็นตัว ปากตำแย เป็นต้น

ปากตำแย มีหมายความหมายว่าอย่าไงร

ปากตำแย หมายถึง  ปากอยู่ไม่สุข ชอบพูด ชอบฟ้อง หรือเป็นพวกขี้ฟ้อง เก็บความลับไม่อยู่ ใครทำอะไรมาก็เอามาฟเองหมด

บทความที่เกี่ยวข้อง

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on email
Email
Share on pinterest
Pinterest
Share on vk
VK

Top ฮิตติดกระแส

มาใหม่วันนี้